ดูเเลรถอย่างไร ให้เหมือนป้ายเเดงตลอดเวลา?
รู้หรือไม่? รถคันเก่าของคุณ สามารถแปลงโฉมให้กลายเป็นรถใหม่ป้ายแดงได้อีกครั้ง เพียงแค่คุณหันมาใส่ใจดูแลรักษารถของคุณให้มากกว่าที่เคย
วันนี้ PTT Lubricants จึงอยากแนะนำวิธีการดูแลรถทั้งภายนอกและภายใน ให้คุณเหมือนได้รถใหม่อีกครั้ง จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
1. ล้างรถเป็นประจำ
การล้างรถเป็นวิธีดูแลรถง่าย ๆ ที่ทำให้สีของรถคุณเงางามเหมือนรถใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยเราสามารถทำได้ด้วยตัวเองเพียงแค่ใช้น้ำเปล่าล้างรถให้ทั่ว จากนั้นใช้สบู่หรือแชมพูล้างรถที่ได้มาตรฐาน พร้อมกับใช้ฟองน้ำถูเป็นแนวตรง และล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกด้วยน้ำเปล่า แต่อย่าลืมขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญคือต้องเช็ดรถให้เเห้งทุกครั้ง ไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเองเพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำ ดังนั้นเราจึงควรเช็ดรถให้แห้งด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์จะดีที่สุด
2. หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด
เพราะรังสี UV จากแสงแดดมีผลกับสีของรถ โดยทำให้สีรถซีดลงและดูเก่าเร็วขึ้น นอกจากนี้ความร้อนจากแสงแดดยังส่งผลต่อวัสดุภายในของรถอีกด้วย โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ทำมาจากหนัง หากเราจอดรถตากแดดทิ้งไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ ชิ้นส่วนเหล่านี้จะแห้งและเกิดรอยแตกได้ ดังนั้นวิธีหนึ่งในการดูแลรถที่แสนง่ายก็คือการจอดในที่ร่มนั่นเอง
3. ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ
เพราะล้อรถเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถของคุณเคลื่อนที่ไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นเราจึงควรหมั่นดูแลและตรวจเช็กแรงดันลมยางเป็นประจำ โดยเติมลมยางรถอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย
4. อย่าลืมทำความสะอาดห้องโดยสาร
เมื่อภายนอกรถดูดีเเล้ว ก็ต้องไม่ลืมดูเเลภายในตัวรถด้วยเช่นกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในรถ ซึ่งเราสามารถจัดการได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาด ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเอาเศษฝุ่นที่ติดอยู่ในซอกลึกออก รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องหนังและพลาสติกเพื่อเพิ่มความเงางาม ป้องกันการแห้งกรอบจากแสงแดด หรืออาจนำรถไปทำความสะอาดเเบบครบวงจรที่ศูนย์บริการ แค่นี้ก็เหมือนคุณได้รถใหม่แล้ว
5. เช็ดทำความสะอาดภายนอกเครื่องยนต์
อีกหนึ่งวิธีในการดูแลรถของคุณให้ดูสะอาดเอี่ยมเหมือนใหม่อีกครั้งก็คือการเช็ดทำความสะอาดภายนอกของเครื่องยนต์รวมถึงชิ้นส่วนใต้ฝากระโปรงรถครับ ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองเพียงเปิดฝากระโปรงรถแล้วเช็ดภายนอกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่น ๆ ใต้ฝากระโปรงรถให้สะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรเฉพาะอย่างน้อยปีละครั้ง
6. เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะที่กำหนด
การดูแลอะไหล่รถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นเมื่อถึงระยะทางและ/หรือระยะเวลาที่กำหนดก็ควรเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย เช่น
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง : เปลี่ยนใหม่ทุกครั้งพร้อมการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
- ผ้าเบรก : เปลี่ยนทุก 50,000-70,000 กิโลเมตร หรือประเมินจากความหนาของผ้าเบรก
- ไส้กรองอากาศ : เปลี่ยนทุก 2 ปีและทำความสะอาดทุก 1 ปี หรือประเมินจากสภาพไส้กรอง/ความสกปรก
- ไส้กรองน้ำมันเกียร์ : เปลี่ยนทุก 80,000 กิโลเมตร หรือ 4 ปี โดยขึ้นกับรุ่นรถและคำแนะนำในคู่มือรถ
- ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง : เปลี่ยนทุก 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี โดยขึ้นกับรุ่นรถและคำแนะนำในคู่มือรถ หรือประเมินจากสภาพกรอง/ความสกปรก
- หลอดไฟส่องสว่างต่าง ๆ : เปลี่ยนเมื่อไส้หลอดขาด หรือประเมินจากความเข้มแสงสว่าง
- สายพานไทม์มิ่ง : เปลี่ยนทุก 100,000 กิโลเมตร หรือประเมินจากระยะการยืดของสายพาน
- หัวเทียน : เปลี่ยนทุก 100,000 กิโลเมตร หรือประเมินจากสภาพหัวเทียน
- ใบปัดน้ำฝน : เปลี่ยนทุก 1 ปี หรือประเมินจากสภาพยางปัดน้ำฝน/ประสิทธิภาพในการปัดน้ำฝน
หมายเหตุ ระยะการเปลี่ยนอะไหล่ดังที่ระบุนี้ เป็นระยะแนะนำทั่วไปสำหรับรถยนต์นั่ง รถปิคอัพ เอสยูวีและพีพีวีเป็นหลัก โดยเจ้าของรถสามารถอ้างอิงระยะการตรวจเช็กและเปลี่ยนอะไหล่ตามที่ระบุในคู่มือรถแต่ละรุ่นแต่ละประเภทได้
7. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นและของเหลวตามระยะที่กำหนด
ควรหมั่นเช็กระยะเเละการใช้งานรถของเราเสมอ จะได้ทราบกำหนดการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นและของเหลว เพื่อให้รถทำงานได้เต็มสมรรถนะและใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ได้แก่
- น้ำมันเครื่อง : เปลี่ยนทุก 7,000 ถึง 15,000 กิโลเมตร หรือ 4 เดือน ถึง 1 ปี โดยขึ้นอยู่กับเกรดของน้ำมันเครื่องและสภาวะการใช้งาน
- น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ : เปลี่ยนทุก 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี สำหรับเกรดสังเคราะห์ 100% และ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี สำหรับเกรดกึ่งสังเคราะห์
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา : เปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี สำหรับเกรดสังเคราะห์ 100% และ 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี สำหรับเกรดทั่วไป
- น้ำมันเฟืองท้าย : เปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี สำหรับเกรดสังเคราะห์ 100% และ 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี สำหรับเกรดทั่วไป
- น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ : เปลี่ยนทุก 3 ปี สำหรับเกรดสังเคราะห์ 100% และ 2 ปี สำหรับเกรดทั่วไป
- น้ำมันคลัตช์ (ระบบเกียร์ธรรมดา) : เปลี่ยนทุก 2 ปี
- น้ำมันเบรก : เปลี่ยนทุก 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี
- น้ำยาหล่อเย็น : เปลี่ยนทุก 100,000 กิโลเมตร หรือ 5 ปี
- จาระบี : ประเมินจากสภาพชิ้นส่วนและความเหมาะสม
หมายเหตุ : ควรตรวจสอบระยะการตรวจเช็กเปลี่ยนอะไหล่ น้ำมันหล่อลื่นและของเหลวในคู่มือรถเนื่องจากรถแต่ละประเภท ยี่ห้อ หรือรุ่น อาจมีการแนะนำที่แตกต่างกัน
เพียงแค่ทำตามวิธีเหล่านี้ คุณก็สามารถแปลงโฉมรถคันเก่าให้กลายเป็นรถใหม่ได้ง่าย ๆ ทั้งภายนอกและภายในแล้วครับ
และอย่าลืมดูแลเครื่องยนต์ของรถคุณด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจาก PTT Lubricants กันด้วยนะครับ พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่ PTT Station และ FIT Auto ทุกสาขา หรือร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ PTT Lubricants ใกล้บ้านคุณ