เผย 7 ความเสี่ยงที่ควรรู้ ก่อนรถยางบึ้ม!
ยางรถบึ้ม!!! เหตุร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
เพราะความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้ วันนี้ PTT Lubricants จะมาเผย 7 สาเหตุที่เสี่ยงทำให้ยางรถยนต์ระเบิด เพื่อให้ทุกคนระมัดระวังเเละไม่ประมาททุกครั้งที่ใช้รถใช้ถนน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
1. ยางเสื่อมสภาพ
เพราะรถมีการใช้งานทุกวัน ยางรถยนต์จึงเสื่อมภาพไปตามระยะเวลาและการใช้งานของเเต่ละคน ดังนั้นผู้ใช้รถจึงควรหมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น แก้มยางมีรอยแตกลายงา บวม หรือดอกยางหมดสภาพ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ก่อนที่จะเกิดปัญหาในการควบคุมทิศทางรถหรือยางรถยนต์ระเบิดได้
2. ยางเก่า/หมดอายุ
หากเราซื้อยางรถที่มีสภาพภายนอกดูดีมาในราคาที่ถูกกว่าปกติหรือซื้อจากร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ ควรระมัดระวังว่านั่นอาจจะเป็นยางเก่าหรือหมดอายุ เเละเมื่อนำมาใช้งานยางอาจเสื่อมสภาพได้ง่ายเเละเสี่ยงยางรถยนต์ระเบิดได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตจากตัวเลขบริเวณเเก้มยางที่ระบุ (สัปดาห์/ปีที่ผลิต) หากตรวจสอบเเล้วพบว่ายางมีอายุการเก็บรักษาเกินกว่า 5 ปี เเสดงว่ายางถูกสต็อกเก็บมาเป็นเวลานาน หากยางมีรอยแตกหรือรอยกรีดบนยาง ไม่ควรซื้อเด็ดขาด
3. เหยียบของมีคม
เพราะยางรถเป็นชิ้นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลา จึงมีความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมบนพื้นถนนและทำให้ยางถูกบาดจนอาจเกิดการระเบิดได้ ไม่ว่าจะเป็น ตะปู เศษหิน เศษเหล็ก เเละอื่น ๆ อีกมากมาย
4. บรรทุกของหนักเกินไป
เพราะการบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากเกินค่าที่ยางกำหนดโดยระบุไว้ที่แก้มยาง นอกจากเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับรถ ยังทำให้น้ำหนักของรถเเละของที่บรรทุกทั้งหมดไปกดอยู่ที่ลมยาง ทำให้ยางรถยนต์รับน้ำหนักไม่ไหว เเละส่งผลให้เสี่ยงต่อยางรถยนต์ระเบิดได้
5. ยางรถร้อนเกินไป
หลายท่านอาจเข้าใจผิดว่าอากาศร้อนในประเทศไทยหรือพื้นถนนร้อน ๆ จะส่งผลให้ยางรถยนต์ระเบิดได้ เเต่ในความเป็นจริง ความร้อนที่เป็นสาเหตุทำให้ยางรถยนต์ระเบิดเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วเกินพิกัดที่ยางระบุไว้ที่แก้มยาง เพราะเมื่อขับโดยใช้ความเร็วติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไกล ๆ ซึ่งจะทำให้เเก้มยางเกิดความร้อนและ เสี่ยงยางรถยนต์ระเบิดได้ ดังนั้นควรขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยนะครับ
6. เติมลมยางไม่ถูกต้องตามที่รถกำหนด
เพราะการเติมลมยางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการเติมลมมากจนเเข็งเกินไป หรือเติมในปริมาณที่ไม่เพียงพอจนยางอ่อน เมื่อรถวิ่งเป็นเวลานาน จะทำให้แก้มยางเกิดความร้อนเเละฉีกขาดหรือยางรถยนต์ระเบิดได้ ดังนั้นการเติมลมยางตามค่าที่คำแนะนำด้านข้างประตูคนขับที่ได้บอกค่ามาตรฐานในการเติมไว้หรือตามที่ยางรถยนต์กำหนดจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
7. รถตกหลุมอย่างรุนเเรง
เพราะสภาพถนนนับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อยางรถยนต์ หากรถขับบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อด้วยความเร็ว จะส่งผลให้ยางรถยนต์ได้รับการกระเเทกอย่างรุนเเรง อาจทำให้ยางของรถบวมได้ และเสี่ยงต่อยางรถยนต์ระเบิดได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงถนนบริเวณที่เป็นหลุมเป็นบ่อหรือขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยทั้งรถยนต์เเละผู้ขับขี่นะครับ
เห็นเเบบนี้เเล้ว อย่าปล่อยให้ปัญหายางรถระเบิดเกิดขึ้นกับคุณ ควรตรวจเช็กสภาพยางรถของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทางนะครับ ด้วยความห่วงใยจาก PTT Lubricants 💙