ระวังยางระเบิด! ส่องสาเหตุก่อนเกิดเหตุถึงชีวิต

2490 ผู้เข้าชม

แชร์ Card image cap

 

ระวังยางระเบิด! ส่องสาเหตุก่อนเกิดเหตุถึงชีวิต

“ยางระเบิด” เป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันและเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมสถานการณ์ได้ยากลำบากจากอาการตกใจ รวมถึงการที่รถเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ อีกทั้งยังก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่นอีกด้วย แต่หากรู้วิธีรับมือและการแก้ไขปัญหาได้ เหตุการณ์ยางระเบิดก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

วันนี้ PTT Lubricants พามาส่องสาเหตุที่ทำให้ยางระเบิด และวิธีรับมือเมื่อยางระเบิด เพื่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้อื่นบนท้องถนนให้ได้น้อยที่สุด จะมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ!

 

สาเหตุที่ทำให้ยางระเบิด

1. ยางร้อนจัด

เกิดจากการเบรกติดที่ล้อใดล้อหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้ด้วย และสาเหตุที่ทำให้ยางร้อนจัดคือ การเลือกใช้ยางรถยนต์ที่ไม่ถูกขนาดหรือไม่ถูกประเภท เช่น เอายางรถเก๋งไปใส่รถปิคอัพ เป็นต้น หรือแก้มยางเสียดสีกับขอบถนนจนยางเกิดสภาวะร้อนสูงได้

2. เติมลมยางไม่ถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนด

หากเติมลมยางอ่อนไปหรือแข็งเกินไป ทำให้เมื่อรถวิ่งเป็นเวลานาน ๆ อาจเกิดความร้อนสูงบริเวณแก้มยาง ทำให้แก้มยางฉีกขาดได้ นอกจากนี้ยังเปลืองน้ำมันรถอีกด้วย

3. บรรทุกน้ำหนักเกิน

เมื่อรถต้องบรรทุกน้ำหนักเกินค่าที่กำหนดไว้ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยางรับไม่ไหวและอาจส่งผลให้ยางระเบิดได้

4. ขับรถเร็วเกินพิกัด

หากขับรถเร็วเกินพิกัดที่ยางกำหนดไว้ ยิ่งเสี่ยงยางระเบิดได้มากขึ้น เพราะเมื่อขับรถด้วยความเร็วยิ่งทำให้ความร้อนของยางสูงขึ้นตาม ทำให้อาจเกิดอันตรายและทำให้เสียหลักในการควบคุมรถได้

5. ยางหมดอายุ

หากพบว่ายางรถมีรอยแตกลาย ยางบวม ฉีกขาด หรือดอกยางหมดสภาพ แสดงว่ายางรถหมดอายุการใช้งานแล้วนั่นเอง ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันทีก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้

 

สัญญาณเตือนก่อนยางระเบิด

หากเกิดอาการรถสั่นสะเทือนโดยไม่ทราบสาเหตุ  หรือ รถเริ่มบังคับได้ยากโดยเฉพาะในจังหวะเลี้ยว อาการเหล่านี้บ่งบอกว่ายางรถกำลังร้อนจัดและเริ่มบวมออกมา ทำให้รถวิ่งได้ช้าลง รถส่ายไปมา หรือถ้ามีเสียงผิดปกติ เช่น เสียงลมพุ่งออกมา เสียงล้อยางบดกับถนนขณะขับขี่ แสดงว่ายางรถเสื่อมสภาพและใกล้ระเบิดแล้ว

 

วิธีรับมือเมื่อยางระเบิด

1. มือทั้ง 2 ข้าง จับพวงมาลัยให้มั่นคง

เมื่อยางระเบิดจะส่งผลให้รถเสียการทรงตัว ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือการจับพวงมาลัยให้มั่นคง และควบคุมการส่ายของรถให้ได้

2. ค่อย ๆ ลดความเร็วรถ 

พยายามค่อย ๆ เอาเท้าออกจากคันเร่งช้า ๆ พร้อมประคองพวงมาลัยไปด้วย แตะเบรกถี่ ๆ และเบา ๆ ในระหว่างนั้นห้ามเหยียบคลัตช์และดึงเบรกมือเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถหลุดจากการควบคุมและอาจเสียหลักพุ่งชนได้

3. ให้สัญญาณไฟเพื่อเข้าจอด

เมื่อความเร็วรถเริ่มลดลงและควบคุมได้แล้ว ให้ส่งสัญญาณไฟและนำรถจอดชิดเข้าข้างทางเพื่อให้ผู้อื่นได้ระมัดระวังรถของคุณ

4. เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำเพื่อหยุดรถ

เมื่อควบคุมความเร็วของรถได้แล้ว ให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ แล้วค่อย ๆ หยุดรถที่ข้างทาง

 

ที่สำคัญควรหมั่นตรวจเช็กสภาพยางรถอยู่เสมอ เลือกยางที่มีคุณภาพ ใช้ยางที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้อยู่ และขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางนะครับ ด้วยความห่วงใยจาก PTT Lubricants💙

 

ที่มา : 

https://shorturl.asia/JTLrK 

https://eyefleet.co/what-causes-a-tire-explosion/ 

https://www.bridgestone.co.th/th/tire-clinic/drivers-essential/cause-of-tire-blowout 

https://shorturl.asia/EF2al