5 สิ่งที่ควรเช็กหลังขับรถลุยน้ำ
หน้าฝนทีไร หนีไม่พ้นการขับรถลุยน้ำ!
ต้องยอมรับว่าในปีนี้เป็นปีที่ฝนฟ้ากระหน่ำพายุเข้าติดต่อกันหลายเดือน ทำให้ฝนตกหนักเเละน้ำท่วมขังหลายจุด ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการขับรถลุยฝนและบริเวณน้ำท่วมขัง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหลังจากขับรถลุยน้ำลุยฝนก็คือ การหมั่นดูแลรักษาและตรวจเช็กสภาพรถเป็นพิเศษ ว่ามีชิ้นส่วนใดได้รับความเสียหายหรือไม่
วันนี้ PTT Lubricants จะมาเเนะนำ 5 สิ่งที่ผู้ใช้รถควรตรวจเช็กและดูแลเป็นพิเศษหลังจากขับรถลุยน้ำ จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย!
1. ระบบเบรก
การขับรถลุยน้ำท่วมสูงมักก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมในชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ อีกทั้งชิ้นส่วนระบบเบรกที่เปียกน้ำจะเกิดความลื่นเเละสูญเสียการจับตัวกันระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก ทำให้ระยะการเบรกเพิ่มขึ้นจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือการไล่ความชื้นออกจากระบบเบรกซึ่งทำได้โดยการเหยียบเบรกบ่อย ๆ เพื่อไล่น้ำและความชื้นในผ้าเบรก ให้ยังคงประสิทธิภาพการเบรกที่ดี สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดาแนะนำ ให้เหยียบย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น
2. ลูกปืนล้อ
ลูกปืนล้อเป็นชิ้นส่วนที่มีโอกาสสัมผัสน้ำโดยตรง หากถูกเเช่ในน้ำเป็นระยะเวลานานจะ ทำให้มีการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วจากสนิมและการกัดกร่อน รวมถึงเสี่ยงต่อการสึกหรอและเกิดเสียงดังผิดปกติระหว่างขับขี่ได้ เนื่องจากจาระบีที่อยู่ภายในลูกปืนล้ออาจถูกชะล้างหายไปพร้อมกับน้ำ จนลูกปืนขาดการหล่อลื่น ดังนั้น อย่าลืมหมั่นสังเกตเสียงดังผิดปกติจากลูกปืนล้อขณะขับขี่ รวมถึงนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กสภาพลูกปืนล้อและจาระบีให้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะหลังขับรถลุยน้ำท่วมสูง
3. เกียร์ส่งกำลัง เพลาขับเเละเฟืองท้าย
ชุดเกียร์ส่งกำลัง (เกียร์ธรรมดา/เกียร์อัตโนมัติ) เพลาขับเเละเฟืองท้ายเป็นชิ้นส่วนที่อยู่บริเวณช่วงล่าง ซึ่งการขับรถลุยน้ำจะมีโอกาสที่น้ำจะแทรกซึมเข้าไปผสมกับน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย และจาระบีช่วงล่างได้ จนประสิทธิภาพการหล่อลื่นลดลงและการปกป้องชิ้นส่วนด้อยลง ส่งผลให้ชุดเกียร์ส่งกำลัง เพลาขับ เเละเฟืองท้ายเกิดความเสียหายได้ เช่น ยางที่หุ้มเพลาเกิดฉีกขาด จึงมีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าไปชะล้างจาระบีที่อยู่ภายใน ส่วนเฟืองท้ายนั้นอาจมีน้ำหรือความชื้นรั่วซึมเข้าไปในบริเวณท่อหายใจน้ำมันเฟืองท้ายได้ ดังนั้น หากเราขับรถลุยน้ำมาแล้วต้องหมั่นตรวจเช็กสีของน้ำมันหล่อลื่นและสิ่งปนเปื้อน เสียงดังผิดปกติของชุดเกียร์ส่งกำลัง เพลาขับ และเฟืองท้าย รวมถึงนำรถเข้าศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และตรวจเช็กช่วงล่างให้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะหลังขับรถลุยน้ำท่วมสูง เพื่อเป็นการป้องกันได้ทันก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมานะครับ
4. ระบบแอร์
การขับรถลุยน้ำบ่อย ๆ น้ำที่เข้ามาภายในจะเกิดเป็นความชื้นสะสม กลายเป็นเชื้อรา ที่ส่งกลิ่นไม่พึ่งประสงค์รบกวนผู้ขับขี่เเละผู้โดยสารอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้น หลังจากขับรถลุยฝนมาเเล้ว ผู้ใช้รถควรทำความสะอาดไส้กรองระบบปรับอากาศ (ไส้กรองแอร์) ง่าย ๆ ด้วยตนเอง รวมถึงนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็กอย่างละเอียดกำจัดกลิ่นอับชื้นให้หมดไป และป้องกันปัญหาที่อาจจะตามภายหลัง
5. น้ำมันเครื่อง
การขับรถลุยแอ่งน้ำ หรือบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง อาจทำให้น้ำรั่วซึมเข้าไปปนเปื้อนในกับน้ำมันเครื่องได้ ซึ่งเราสามารถตรวจเช็กได้เองเบื้องต้นจากการดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาดู หากพบว่าน้ำมันเครื่องมีสภาพขุ่นคล้ายน้ำนมหรือมีน้ำปน ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กโดยละเอียด รวมถึงการฟลัชชิ่งเครื่องยนต์และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรงตามมาในภายหลัง
รู้เเบบนี้ หลังขับรถลุยน้ำมาเเล้ว อย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถเสมอ เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงส่วนนั้นได้ทันท่วงทีนะครับ ด้วยความห่วงใยจาก PTT Lubricants 💙