โดยแพลตฟอร์ม EVOTEC Technology ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นกลุ่มน้ำมันเครื่องเบนซินสำหรับรถยนต์นั่งอย่าง PERFORMA ซึ่งมาพร้อมกับมาตรฐานใหม่ล่าสุด API SP และ ILSAC GF-6A

ปกป้องเครื่องยนต์ Turbo-GDI ด้วยมาตรฐานสูงสุด API SP และ ILSAC GF-6
     ย้อนกลับไปจะเห็นว่า PTT Lubricants พัฒนาน้ำมันเครื่องกลุ่ม PERFORMA มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบสนองการใช้งานกับเครื่องยนต์ Turbo-GDI ได้ดีที่สุด
     เริ่มตั้งแต่ปี 2559 ที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ PERFORMA EURO SYN มาตรฐาน ACEA C3, API SN เพื่อรองรับเครื่องยนต์ Turbo-GDI จากค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของยุโรป
     จากนั้นในปี 2561 ได้ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ PERFORMA SUPER SYNTHETIC SAE 0W-20 ให้ดียิ่งขึ้นด้วยมาตรฐานใหม่ล่าสุดในขณะนั้น API SN PLUS เพื่อการรองรับเครื่องยนต์ Turbo-GDI และ GDI ที่อยู่ในรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา รวมถึงการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นสำหรับรถยนต์ประเภทไฮบริด
     สำหรับในปี 2563 นี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในวงการน้ำมันเครื่องระดับโลก โดยสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute, API) ได้เริ่มประกาศใช้มาตรฐาน API SP พร้อมกับมาตรฐาน ILSAC GF-6 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องเบนซินให้สามารถรองรับและใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับเครื่องยนต์ Turbo-GDI
     น้ำมันเครื่องเบนซินมาตรฐาน API SP และ ILSAC GF-6 นั้น ได้ถูกวิจัยและพัฒนาไปพร้อมกันซึ่งต้องผ่านเกณฑ์การประเมินจากผลทดสอบกับเครื่องยนต์จริงในห้องปฏิบัติการ (Engine Test Laboratory) โดยมีรายการทดสอบเครื่องยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 7 รายการ เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิม API SN และ ILSAC GF-5 อีกทั้งเกณฑ์การประเมินยังมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และมีการทดสอบเพื่อประเมินปัญหาเกิดขึ้นในเครื่องยนต์ Turbo-GDI ได้แก่ การสึกหรอของโซ่ราวลิ้นและการเกิด LSPI ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำมันเครื่องเบนซินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบเหล่านี้ มีความทนทานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ Turbo-GDI ได้สูงสุดอีกด้วย
     PTT Lubricants ในฐานะแบรนด์ชั้นนำด้านนวัตกรรมของน้ำมันเครื่องเบนซินจึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับน้ำมันเครื่องกลุ่ม PERFORMA ภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด EVOTEC Technology โดยใช้แนวคิดดังกล่าวในการต่อยอดจนพัฒนาได้เป็นนวัตกรรมใหม่ภายใต้ชื่อ SMART Molecules หรือ Synergy of Mixed Alkalines for Robustness Technology Molecules ถือเป็นการปฏิวัติเทคโนโลยีของสารเพิ่มคุณภาพ (Additives) ครั้งสำคัญ โดยผสานการทำงานร่วมกันของสารทำความสะอาดขั้นสูงเพื่อการคงประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ไปพร้อมกับป้องกันการเกิด LSPI ได้อย่างดีเยี่ยม ร่วมด้วยสารต้านทานการสึกหรอคุณภาพสูงพิเศษเพื่อการปกป้องเครื่องยนต์สูงสุดโดยเฉพาะบริเวณชุดขับเคลื่อนวาล์วและชิ้นส่วนที่ต้องรับงานหนักต่อเนื่องยาวนาน

PERFORMA สูตรใหม่ SMART Molecules ดีกับเครื่องยนต์อย่างไร
     1. ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น : ทั้งในด้านความสะอาดและลดการสึกหรอ เครื่องยนต์จึงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุได้ยาวนานสูงสุด (Endurance + Efficiency)
     2. แก้ปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยม : โดยเฉพาะในเครื่องยนต์ Turbo-GDI ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและฉับพลัน (Endurance)
     3. ลดความเสียดทาน/แรงต้านในเครื่องยนต์ได้มากยิ่งขึ้น : เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบ เต็มกำลัง ตอบสนองอัตราเร่งได้ดีในทุกสภาวะ (Efficiency) และประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไอเสีย (Environment)
     4. น้ำมันเสื่อมสภาพช้าลง ทนความร้อน สารเคมีและแรงเฉือนได้ดียิ่งขึ้น : หล่อลื่อได้ดีตลอดระยะการใช้งานที่ยาวนานสูงสุดถึง 15,000 กิโลเมตร (Endurance + Environment)

     ปัจจุบัน PTT Lubricants ได้เริ่มใช้สูตรใหม่ SMART Molecules กับน้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ 100% คือ PERFORMA SUPER SYNTHETIC เบอร์ SAE 0W-20 และ 0W-30 รวมทั้ง PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR SAE 0W-20 และเร็วๆ นี้กำลังจะมีการปรับปรุงคุณภาพสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นในกลุ่ม PERFORMA ด้วยนวัตกรรมใหม่นี้เช่นเดียวกัน